อันที่จริง ถ้าดาวยิงทีมชาติอุรุกวัย ไม่สวมวิญญาณ กาเบรียล บาติสตูต้า ยิงเต็มข้อล่อเต็มแข้ง เสียบเสาสองคว้าสามคะแนนกลับ แอนฟิลด์ ล่ะก็ บทความนี้ผมคงจัดหนักใส่ จอห์น บรูคส์ ผู้ตัดสินในเกมนั้น ที่ทำหน้าที่ได้ในมาตรฐานเดียวกันกับ กรรมการมวยปล้ำ

ต้นเกม เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ โดน แอนโทนี่ กอร์ดอน กระแทกจากด้านหลัง กลิ้งเป็นขนุนหลุดออกนอกสนาม แต่กลับไม่ได้ฟาล์ว แล้วพอนักเตะ เบอร์ 66 รายนี้ โยนบอลกลับลงไป ก็กลายเป็นว่า โดนใบเหลืองโทษฐานถ่วงเวลาไปซะอย่างนั้น ดีที่บุญยังรักษา แกไม่บ้าจี้ แจกใบเหลืองสองเมื่อ แบ็คขวารายนี้ ตัดฟาล์ว คู่กรณีรายเดิมในอีกไม่กี่วินาทีต่อมา ว่าแต่ ทำไมผู้เล่น นิวคาสเซิล ไม่มีใครโดนคาดโทษอะไร จากการกดดันแกล่ะ

นี่ยังไม่รวมถึง โจเอลินตัน ที่ตัดฟาล์วทั้งเกม จนน่าแปลกใจว่าไม่โดนใบเหลืองเลย ตลอด 82 นาที ที่ลงเล่นในเกมนี้

นอกจากนั้น จอห์น บรูคส์ ยังแจกใบแดงให้กับ เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค แบบน่าแปลกใจ คือจริงอยู่ที่ว่านี่คือกองหลังตัวสุดท้าย แต่ถ้าจะเอามาตรฐานนี้มาตัดสิน รับรองว่า จากนี้ไปทุกสัปดาห์ ต้องมีนักเตะเล่นกันไม่จบเกม ซึ่งมันเสียอรรถรสในการรับชมสุดๆ

อย่างไรก็ตาม คนนึงที่จะไม่ตำหนิไม่ได้เลยคือ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์  ที่จับบอลวืดวาด ดีที่ไม่ลื่นแบบครั้งตำนานสโมสร พลาดจนเป็นเหตุให้ถ้วยพรีเมียร์ลีกหลุดลอยเมื่อหลายปีก่อน ซึ่งการพลาดครั้งนี้เป็นเหตุให้ทีมโดนขึ้นนำ และนี่เป็นความผิดสองเกมต่อเนื่อง อันนำมาสู่การเสียประตู

แบ็คขวาที่มีดีกรีเป็นรองกัปตันทีม จำเป็นต้องมีสมาธิกับเกมมากกว่านี้ เพื่อเตรียมจะก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำทีมแบบเต็มตัว ในอีกไม่กี่ฤดูกาลข้างหน้า เพราะว่า ฟาน ไดจ์ค ปัจจุบันก็อายุ 32 ปีเข้าไปแล้ว 

ลิเวอร์พูล จำเป็นต้องพึงระลึกไว้ว่า เทพีแห่งการคัมแบ็ค ไม่ได้จะสถิตอยู่กับทีมในทุกเกม ถึงจะทำได้สำเร็จสองเกมติดต่อกัน ทั้งที่เหลือตัวผู้เล่นแค่ 10 คนก็ตาม ท้ายที่สุดแม้ว่าชัยชนะลักษณะนี้ มันจะสะใจขนาดไหน แต่ถ้าเลือกได้ผมขอเก็บสามคะแนน แบบสบายๆ บ้างเถอะครับ

เขียนโดย The Lite Team.